โอเอ็มดีคลินิก

“ผู้ที่ป่วยก็อยากหายป่วย ผู้ที่สุขภาพดีอยู่แล้ว ก็อยากมีสุขภาพที่ดี แข็งแรงยิ่งๆขึ้นไป”

โอเอ็มดีสหคลินิกการแพทย์แผนไทย-จีน มีเป้าหมายหลักในการให้บริการเพื่อรักษา และป้องกัน ลดโอกาสการเกิดโรคของคนไทย โดยใช้ภูมิปัญญาด้านการแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนจีน และการแพทย์ทางเลือก โดยเฉพาะการใช้สมุนไพร ยาสมุนไพร เพื่อการป้องกัน และรักษา ที่ได้รับการพัฒนาต่อยอด ให้มีประสิทธิภาพ และความปลอดภัยในระดับสูง โดยในปัจจุบันเราเปิดให้บริการมากกว่า 28 สาขาทั่วประเทศ

หมอแบงค์

พท.ป. กวินท์ มุ่งอาษา
ผู้จัดการฝ่ายแพทย์แผนไทย

B.ATM. (Applied Thai Traditional Medicine)
Faculty of Medicine Siriraj Hospital,
Mahidol University

นวดดึงดัดกระดูก

การนวดปรับสมดุลโครงสร้างร่างกาย
(Adjust Body Balance Massage)

การนวดปรับสมดุลโครงสร้างร่างกาย คำนึงถึงความสมดุลของโครงสร้างร่างกาย และความสมบูรณ์ของโครงสร้าง ไปจนถึงการรักษาฟื้นฟูโครงสร้างที่นำไปสู่สุขภาพที่ดีโดยรวม โดยเน้นการปรับแนวโครงสร้างกระดูกสันหลังตลอดแนว ตั้งแต่ส่วนคอลงไปถึงก้นกบ และข้อต่อต่าง ๆ ในร่างกาย ได้แก่ ข้อหัวไหล่ ข้อศอก ข้อมือ ข้อสะโพก ข้อเข่า ข้อเท้า โดยอาศัยความรู้ทางด้านลักษณะโครงสร้างของร่างกาย (Structure) ระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ (Musculoskeletal System) และระบบประสาท (Nervous System)

หลักของการรักษาคือการจัดเรียงโครงสร้างให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูตนเองจากการเจ็บป่วย แนวทางการรักษานั้นจะนำเทคนิคการบำบัดข้อกระดูก (Joint) และการฟื้นฟูกล้ามเนื้อ (Muscle) ด้วยวิธีการปรับ เพื่อทำให้กล้ามเนื้อและข้อต่อต่าง ๆ ขยับได้มุมองศาการเคลื่อนไหวปกติ (Range of Motion) และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องอาศัยยาและการผ่าตัด ซึ่งนับว่าเป็นวิธีการรักษาแบบ Non-Invasive โดยการนวดปรับสมดุลโครงสร้างร่างกายสามารถรักษาผู้ป่วยที่มีอาการต่าง ๆ ได้แก่ ผู้ที่มีอาการคอเคล็ด ปวดคอ ปวดไหล่ ปวดหลัง อาการกล้ามเนื้ออักเสบ และปวดเมื่อยตามอวัยวะต่างๆ อาทิ คอ บ่า ไหล่ หลัง และแขน

นวดกดจุดรักษา

การนวดกดจุดรักษา
(Thai Therapeutic Massage)
เน้นการรักษาอาการผิดปกติหรือบำบัดความเจ็บปวดจากอาการเจ็บป่วย ซึ่งครอบคลุมอาการหลายแบบ เช่น อาการปวดเมื่อยจากภายนอก ปวดหลัง คอ บ่า ไหล่ อาการออฟฟิศซินโดรม ไปจนถึงอาการเจ็บป่วยจากภายใน เช่น กรดไหลย้อน ท้องผูก การผ่อนคลายความเครียดในผู้ป่วยไมเกรน นอนไม่หลับ หรือแม้กระทั่งการปรับสมดุลฮอร์โมนในผู้ที่เข้าวัยทอง แต่ไม่รวมถึงอาการผิดปกติจากการติดเชื้อ โรคมะเร็ง โรคผิวหนัง
โดยมีจุดนวดที่ใช้นวดเพื่อบรรเทารักษาโรค ซึ่งมีความแตกต่างไปตามแต่ละอาการ เช่น กรณีที่ปวดขา โดยส่วนมากแล้วจะมีสาเหตุมาจากหลัง ทำให้มีการนวดพื้นฐานขา พื้นฐานขาด้านใน พื้นฐานหลัง และมีชุดกดจุดการนวด หลัง สะโพก ขาด้านใน และอาจมีการดัดตึง แต่จะทำด้วยความระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงอาการบาดเจ็บเพิ่มเติม ซึ่งการนวดจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อลดอาการตึงทำให้อาการปวดลดลง และการกดจุดเพื่อให้เลือดและน้ำเหลืองไหลเวียนสะดวก โดยภายหลังนวดอาจมีข้อแนะนำหลังการนวดให้ปฏิบัติตาม เพื่อที่อาการเจ็บป่วยจะได้ทุเลาโดยเร็วขึ้น

Sport massage

การนวดนักกีฬา
(Sport Massage)
เป็นการนวดที่ถูกออกแบบมาเพื่อนักกีฬา และผู้ที่ออกกำลังกายอย่างหนักโดยเฉพาะ มีจุดประสงค์เพื่อช่วยลดความตึงตัวของกล้ามเนื้อทั้งในระดับตื้นและลึก (Superficial and Deep Muscle) กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และช่วยให้กล้ามเนื้อฟื้นฟูจากอาการบาดเจ็บได้เร็วยิ่งขึ้น ลดอาการ DOMS (Delayed Onset Muscle Soreness) หรืออาการปวดกล้ามเนื้อหลังจากออกกำลังกาย การนวดยังทำให้จิตใจผ่อนคลาย ทั้งก่อนและหลังการแข่งขันและการออกกำลังกาย
โดยการนวดสปอร์ต ประกอบด้วยการนวดหลายรูปแบบ โดยใช้เทคนิคในการนวดแบบต่าง ๆ ได้แก่ การลูบ (Effleurage) การบีบ (Petrissage) การกด (Friction) การเคาะ (Tapotement/Tapping) และการเขย่า (Vibration) โดยปรับใช้เทคนิคต่าง ๆ ให้เข้ากับความต้องการของแต่ละบุคคล ทั้งนี้อาจร่วมกับการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ (Stretching) และนวดปรับสมดุลโครงสร้างร่างกาย (Adjust Body Balance Massage) ร่วมด้วย
การนวดสปอร์ต ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในหมู่นักกีฬามืออาชีพ เนื่องจากสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ (Performance) ได้ ผู้ที่ไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำ แต่เป็นกลุ่มที่ใช้งานกล้ามเนื้อสะสม เช่น ออฟฟิศซินโดรม ก็สามารถรับบริการนวดสปอร์ตได้เพราะจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย

เผายา

  การเผายา (Herbal Burning)
การเผายาคือการนำสมุนไพรเช่น หัวไพล, ขิง, ช่า เป็นต้น มาตำรวมกัน แล้วนำไปวางบนท้องรอบสะดือแล้วใช้ผ้าเปียกทำเป็นวงกลมล้อมรอบ ใส่เกลือและน้ำมันสมุนไพรเล็กน้อย และใช้ผ้าอีกผืนคลุมทับอีกชั้นหนึ่งแล้วจุดไฟเผา
หลักการคือใช้ไฟเพื่อก่อให้เกิดความร้อนแก่ร่างกาย หรือบริเวณที่ต้องการรักษา มักใช้กับมัดกล้ามเนื้อขนาดใหญ่ เช่น หน้าท้อง หน้าอก แผ่นหลัง หรือใช้เน้นรักษาเฉพาะจุด เช่น ข้อมือ หน้าเข่า หลังเข่า (โดยส่วนมากใช้เผายาบริเวณหน้าท้อง รอบสะดือ ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของเส้นประธานสิบไปตามร่างกาย)
สามารถใช้บรรเทาอาการทางระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย หรือกลุ่มกล้ามเนื้อและข้อต่อ เช่น อาการปวดเมื่อย ขยับข้อได้ไม่สะดวก

พอกเข่า – พอกยา

การพอกยา
(Herbal Poultice/Masking)
การพอกยาด้วยสมุนไพรเป็นวิธีการรักษาทางแพทย์แผนไทย คือ การนำสมุนไพรที่มีสรรพคุณกระจายเลือดลมบริเวณข้อ เพิ่มไหลเวียนของเลือด ลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น ลดอาการบวม นำมาพอกบริเวณอวัยวะที่ปวดเป็นเวลา 15 – 20 นาที ช่วยรักษาอาการปวดและการอักเสบ มีทั้งยาฤทธิ์ร้อนและยาฤทธิ์เย็น ยาพอกสมุนไพรแก้ปวดลดการอักเสบ เป็นตำรับยาสมุนไพรไทยดั้งเดิมที่แพทย์แผนไทยใช้ในการรักษาผู้ป่วย โดยใช้พอกตามบริเวณข้อต่อกระดูกของร่างกาย เช่น ข้อเข่า ข้อเท้า ข้อไหล่ หรือบริเวณแนวกล้ามเนื้อ เพื่อลดอาการปวด บวม อักเสบ

การประคบสมุนไพร

การประคบสมุนไพร
(Hot Herbal Compression)
เป็นการนำลูกประคบสมุนไพรสดหรือสมุนไพรแห้ง นึ่งให้ร้อน และนำมาประคบตามส่วนต่าง ๆของร่างกาย ส่วนใหญ่มักนิยมประคบหลังจากการนวด การประคบสมุนไพรจะช่วยส่งเสริมการนวดให้ผลการรักษาดีขึ้น ทั้งจากตัวยาสมุนไพร และความร้อน การประคบสมุนไพรมีประโยชน์ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ช่วยลดอาการบวม บรรเทาการอักเสบของกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ในหญิงหลังคลอดช่วยลดอาการตึงคัดของเต้านมด้วย โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีต่อการประคบ 1 ครั้ง

หมอโบกี้

พจ. กษิดิ์เดช เพลินอักษร
ผู้จัดการฝ่ายแพทย์แผนจีน

B.CM. (Traditional Chinese Medicine)
School of Integrative Medicine, Mae Fah Luang University

ฝังเข็ม

ฝังเข็ม หรือ Acupuncture เป็นศาสตร์การรักษาทางการแพทย์แผนจีนที่มีมาอย่างยาวนานหลายพันปี และเป็นที่ถูกใช้ทั่วโลก แม้กระทั่งประเทศไทย โดยการฝังเข็มนั้นแพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กเป็นเข็มชนิดตัน ปักลงในจุดต่างๆ ของร่างกายที่มีเส้นลมปราณอยู่ แล้วแพทย์จะทำการขยับเข็มเป็นวงกลมหรือบางที่อาจจะใช้กระแสไฟฟ้า เพื่อกระตุ้นให้เส้นเลือดฝอยมีการขยายตัว จึงทำให้การไหลเวียนของลม โลหิตในร่างกายดีขึ้นและปรับสมดุลของร่างกาย เมื่อการไหลเวียนดีขึ้น สารอาหารต่างๆ ก็ไหลเข้าทั่วร่างกาย แถมยังช่วยเรื่องเสริมสวยความงามได้อีกด้วย
ซึ่งเส้นลมปราณนี้ หากการไหลเวียนไม่คล่องตัวหรือติดขัด อาจก่อให้เกิดโรคต่างๆ หรืออาการต่างๆ เช่น อาการปวดตามร่างกาย ความเครียด ปวดศีรษะ ไมเกรน ปวดตามข้อ ข้ออักเสบ ภูมิแพ้ นอนหลับยาก แถมยังก่อให้เกิดปัญหาผิวอย่าง สิว ฝ้า หรือใบหน้าหมองคล้ำอีกด้วย

ครอบแก้ว

ครอบแก้ว หรือ Cupping คือการบำบัดทางการแพทย์แผนจีนชนิดหนึ่ง โดยการรักษาจะนำถ้วยแก้ว หรือกระปุกแก้วมาลนไฟให้ร้อน เพื่อไล่อากาศออกจนเกิดสุญญากาศ แล้วนำมาวางไว้บนร่างกาย ความร้อนและสุญญากาศจะดูดผิวหนังหรือกล้ามเนื้อขึ้น ทําให้เกิดการกระตุ้นระบบประสาท ฮอร์โมน และทําให้ระบบหมุนเวียนเลือดสมดุล ไม่ติดขัด ขจัดเลือดคั่ง รักษาอาการปวด ทะลวงเส้นลมปราณ ลดอาการอักเสบ ขับสารพิษในร่างกาย และช่วยการผ่อนคลาย เพื่อสุขภาพที่ดี
หลังการครอบแก้ว ตรงบริเวณผิวหนังที่ถูกการครอบแก้ว การดูดของสุญญากาศอาจทำให้เส้นเลือดฝอยบริเวณใต้ผิวหนังขยายตัวหรือแตกออก จนเกิดเป็นรอยเป็นจ้ำๆ สีม่วงหรือสีดำให้เห็นอยู่บ้าง แต่จะหายไปเอง โดยไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อร่างกาย

กัวซา (刮痧)

กัวซา (刮痧)เกิดจากการผสมคำในภาษาจีนระหว่างคำว่า “กัว (刮)” หมายถึง การกด และคำว่า “ซา (痧)” หมายถึง ผื่นหรือรอยแดง โดยการกัวซานั้น ถือเป็นหนึ่งในวิธีการบำบัดรักษาโรคของแพทย์แผนจีน โดยแพทย์จีนจะใช้อุปกรณ์ที่มีลักษณะเป็นขอบเรียบ โค้งมน ซึ่งส่วนใหญ่จะนิยมใช้เป็นเขาสัตว์ หยก ไม้ หรือเซรามิก จะนำอุปกรณ์มากดและขูดตามส่วนต่างๆของร่างกาย โดยทั่วไปก่อนการทำกัวซาจะมีการใช้น้ำมันเพื่อเป็นการลดแรงเสียดสีระหว่างผิวและอุปกรณ์ที่ใช้กัวซา

การแมะ

การแมะคือ การจับชีพจรเพื่อตรวจดูการทำงานของอวัยวะภายใน การไหลเวียนของโลหิตและปริมาณสารจำเป็นในร่างกาย โดยสามารถบ่งบอกว่าร่างกายมีภาวะร้อนเกินไป เย็นเกินไป หรือระบบการทำงานของอวัยวะใดทำงานผิดปกติ เมื่อคนไข้เป็นโรคมีอาการผิดปกติที่อวัยวะใด ร่างกายก็จะแสดงอาการออกมาทางเส้นชีพจร ทั้งนี้การตรวจวินิจฉัยจะได้ผลออกมาแม่นยำหรือไม่นั้น ก็ต้องขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ของแพทย์

ฝังเข็ม

ฝังเข็มเพื่อการกระชับสัดส่วน ช่วยกระตุ้นระบบเผาพลาญ กระตุ้นการทำงานของกระเพาะอาหาร และช่วยลดความอยากอาหาร ฝังเข็มจะช่วยกระชับสัดส่วนในบริเวณต่างๆได้ เช่นหน้าท้อง ต้นแขน และต้นขา กระชับขึ้นได้ การฝังเข็มเพื่อลดความอ้วนนั้น จะเข้าไปกระตุ้นให้ร่างกายและเซลล์สื่อประสาทของสมอง เกิดการหลั่งฮอร์โมน อาทิเช่น เอนโดฟิน ที่ทำให้มีความสุข คลายเครียด นอนหลับได้สนิทมากขึ้น ส่งผลให้สภาพจิตใจและสุขภาพโดยรวมค่อยๆ ดีขึ้น

ฝังเข็มเพื่อความงาม

การฝังเข็มเป็นตัวเลือกที่นิยมมากวิธีหนึ่งในการแก้ปัญหาผิวพรรณ บนใบหน้า ตั้งแต่สิว ฝ้า ริ้วรอย ผิวพรรณไม่สดชื่น จุดด่างดำ ผดผื่น กระ ขอบตาดำ ริ้วรอยใต้ตา ผมร่วง ผิวหย่อนคล้อย เป็นต้น

หมอจูน

พท.ป. ฉัตรรวี บุตรโชติ
ผู้จัดการฝ่าย Ayurveda and Wellness

B.ATM. (Applied Thai Traditional Medicine)
Thai Traditional Medicine College, Rajamangala University of Technology Thanyaburi

Kati Dhara (คาติดารา)

Kati Dhara (คาติดารา) ทรีทเม้นท์อายุรเวทของอินเดีย เป็นการนวดเน้นบริเวณหลัง แนวกระดูกสันหลังและปลายประสาทหลังส่วนล่าง โดยศาสตร์การหยอดน้ำมันสมุนไพรอุ่นและกักน้ำมันบริเวณแนวกระดูกสันหลัง ตามด้วยเทคนิคการนวดประคบสมุนไพร

เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดหลังเรื้อรัง กล้ามเนื้อหลังแข็งเกร็ง ปวดหลังส่วนล่าง หรือผู้ที่ต้องการผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณหลัง

Shiro Dhara (ชิโรดารา)

Shiro Dhara (ชิโรดารา) ทรีทเม้นท์อายุรเวทของอินเดีย เป็นการหยอดน้ำมันอุ่นบริเวณศีรษะ โดยเน้นบริเวณหน้าผากและจุดดวงตาที่ 3 อยู่ระหว่างหัวคิ้ว ให้น้ำมันไหลผ่านบริเวณหนังศีรษะอย่างช้าๆ ตามด้วยการนวดศีรษะแบบนุ่มนวล

เหมาะสำหรับผู้ที่นอนไม่หลับ ผู้มีความเครียดรวมไปถึงช่วยบรรเทาอาการปวดไมเกรน

นวดชิเนซัง

ชิเนซัง คือ การกดจุด 8 บริเวณที่หน้าท้อง โดยจะนวดบริเวณเหนือสะดือและพื้นที่รอบบริเวณหน้าท้อง โดยยึดแนวทางของจุดลมปราณต่าง ๆ ตามแบบฉบับลัทธิเต๋าของจีนในการนวดบำบัด ซึ่งมีดีมากกว่าการคลายกล้ามเนื้อที่เกร็งตึง เพราะบริเวณหน้าท้องนั้นเป็นจุดลมปราณ หากเกิดอาการท้องอืดหรือท้องผูก จึงเป็นไปได้ว่าลมปราณจุดต่าง ๆ นั้นทำงานไม่ราบรื่นและเกิดความตึงเครียด การนวดเฉพาะจุดที่หน้าท้องและอวัยวะภายในช่องท้องจึงช่วยให้ลมปราณเดินทางสะดวกไม่ติดขัด และยังสามารถขจัดสารพิษและคืนความสมดุลของธาตุภายในร่างกาย กระตุ้นการทำงานของต่อมน้ำเหลืองและระบบการไหลเวียนของโลหิตให้กลับเป็นปกติ ปลดปล่อยอารมณ์ด้านลบและความตึงเครียด รวมทั้งช่วยให้ระบบขับถ่ายและระบบย่อยทำงานได้ดีขึ้น

นวดไทย

นวดไทย คือ การนวดชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นศาสตร์บำบัดและรักษาโรคแขนงหนึ่งของการแพทย์แผนไทย โดยจะเน้นในลักษณะการกด การคลึง การบีบ การดัด การดึง การอบ และ ประคบ ซึ่งรู้จักกันโดยทั่วไปในชื่อ “นวดแผนโบราณ” ซึ่งไม่ใช่เพื่อรักษาความเจ็บปวดเท่านั้น แต่ยังดีต่อสุขภาพ และ สามารถรักษาโรค เพราะการนวดจะส่งผลโดยตรงต่อร่างกายและจิตใจ โดยอาศัยการสัมผัสอย่างมีศิลปะ 

คลินิกกัญชาทางการแพทย์แผนไทย

ผู้จัดการคลินิกกัญชาทางการแพทย์
หมอแตน พท.สายพิรุณ ละคร

OMDClinic Natural&Wellness